คู่มือด้านงานสัญชาติ
หน้าหลัก / คู่มือ / คู่มือด้านด้านงานสัญชาติ
การขอมีสัญชาติไทยของบุตรคนต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทย ตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551
สถานที่ติดต่อ
ทะเบียนบ้านอยู่กรุงเทพมหานคร ยื่น ณ สำนักบริหารการทะเบียน
ทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัด ยื่น ณ ที่ว่าการอำเภอ
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. สูติบัตร
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 2 ฉบับ
*หมายเหตุ (หรือหนังสือรับรองการเกิด ท.ร.20/1 หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด
2. บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (ของผู้ขอ)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 2 ฉบับ
3. รูปถ่ายขนาด 3 นิ้ว
จำนวน 3 รูป
4. บัตรประจำตัวหรือเอกสารราชการอื่นที่มีภาพถ่ายของบิดามารดาผู้ขอ
สำเนา 2 ฉบับ
5. หลักฐานการพ้นโทษ (กรณีผู้ขอสัญชาติเคยได้รับโทษจำคุก)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 2 ฉบับ
6. หนังสือรับรองผลการศึกษาหรือหลักฐานการเรียน (ยกเว้นอายุต่ำกว่า 7 ปี)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 2 ฉบับ
7. หนังสือรับรองว่าเป็นคนที่ไม่ปรากฎบุพการีหรือบุพการีทอดทิ้งตั้งแต่วัยเยาว์ หรือ หนังสือรับรองการทำคุณประโยชน์ (ถ้ามี) ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 2 ฉบับ
ค่าธรรมเนียม -
ระยะเวลา : 180 วัน
หมายเหตุ
การพิจารณาให้สัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551 และตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2559การกำหนดสถานะตามกฎหมายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2559
1. บุตรของคนที่เข้าอพยพเข้ามาในราชอาณาจักรและอาศัยอยู่เป็เวลานาน ครอบคลุมชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธุ์ซึ่ง คณะรัฐมนตรีมีมติไว้เดิมรับรองสถานะให้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักร อาทิ กลุ่ม เวียดนาอพยพ อดีตทหารจีนคณะชาติ จีนฮ่ออพยพพลเรือน จีนฮ่ออิสระ ไทยลื้อ ลื้อ ผู้อพยพเชื้อสายไทยจากจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าเชื้อสายไทย ผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า เนปาลอพยพ ชาวเขา บุคคลบนพื้นที่สูง ลาวภูเขาอพยพ ม้งถ้ำกระบอก ผู้หลบหนีเข้าเมืองจากพม่า อดีตโจรจีนคอมมิวนีสต์มาลายา ผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวกัมพูชา ชาวมอร์แกน และคนอพยพเข้ามาในราชอาณาจักรและอาศัยอยู่เป็นเวลานาน ที่ได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะ และสิทธิของบุคคลตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548 ให้ได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไปภายใต้เงื่อนไข ดังนี้
(1) บิดาหรือมารดาที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรและอาศัยอยู่เป็นเวลานานตามข้อ 1 ต้องมีหรือเคยมีชื่อและรายการบุคคลในทะเบียนประวัติ หรือเอกสารการทะเบียนราษฎร มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร และต้องเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าปี นับถึงวันที่บุตรยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือนายทะเบียนเพื่อขอมีสัญชาติไทย
(2) มีหลักฐานแสดงว่าเกิดในราชอาณาจักร ได้แก่ สูติบัตร ทะเบียนการเกิด หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.20/1) หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด และต้องมีรายการบุคคลในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร แล้วแต่กรณี
(3) ไม่ปรากฏหลักฐานการมีและใช้สัญชาติอื่น
(4) พูดและฟังภาษาไทยเข้าใจได้ ยกเว้นเด็กที่มีอายุต่ำกว่าเจ็ดปี
(5) มีความจงรักภักดีและเลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
(6) มีความประพฤติดี ไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคง และถ้าเคยรับโทษอาญา ต้องพ้นโทษมาแล้ว ไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันที่ยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือลหุโทษ
2. เด็กและบุคคลที่กำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษาหรือสำเร็จการศึกษาแล้ว โดยบิดาหรือมารดาเป็นคนต่างด้าวอื่นที่ไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ตามข้อ 1 หรือไม่ปรากฎบิดามารดาหรือบิดามารดาทอดทิ้งตั้งแต่วัยเยาว์ ให้ได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไป ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้
(1) มีหลักฐานแสดงว่าเกิดในราชอาณาจักร ได้แก่ สูติบัตร ทะเบียนการเกิด หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.20/1) หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด และต้องมีรายการบุคคลในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรแล้วแต่กรณี
(2) ไม่ปรากฏหลักฐานการมีและใช้สัญชาติอื่น
(3) พูดและฟังภาษาไทยเข้าใจได้
(4) มีความจงรักภักดีและเลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
(5) มีความประพฤติดี ไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและถ้าเคยรับโทษอาญา ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันที่ยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือลหุโทษ
(6) มีหลักฐานแสดงว่าจบการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าจากสถาบันการศึกษาในราชอาณาจักรซึ่งกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยฐานะ แต่ถ้าเป็นผู้ที่เรียนจบการศึกษาระดับอุดมศึกษา หรือเทียบเท่าจากสถาบันในต่างประเทศจะต้องเป็นผู้ได้รับทุนการศึกษาจากหน่วยงานของรัฐ
(7) สำหรับเด็กและบุคคลที่มีคุณสมบัติตามข้อ 2 (1)-(5) และอยู่ระหว่างการศึกษาในสถาบันการศึกษาหากมีความจำเป็นต้องขอมีสัญชาติไทย ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก่อน
(8) สำหรับเด็กและบุคคลที่มีคุณสมบัติตามข้อ2 (1)-(5) และเป็นผู้ที่ไม่ปรากฎบิดามารดา หรือบิดามารดาทอดทิ้งตั้งแต่วัยเยาว์ถ้าไม่จบการศึกษาตาม (6) ต้องมีหนังสือรับรองความเป็นคนไร้รากเหง้า จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และต้องมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ ในราชอาณาจักรติดต่อกันไม่น้อยกว่าสิบปีนับถึงวันที่ผู้นั้นยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือนายทะเบียน เพื่อขอมีสัญชาติไทย
3. ให้ผู้ที่เกิดในราชอณาจักรและไม่ได้รับสัญชาติไทย ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศ จนเป็นที่ประจักษ์ ให้ได้สัญชาติไทยเป็นการเฉพาะราย ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
(1) มีหลักฐานแสดงว่าเกิดในราชอาณาจักร ได้แก่ สูติบัตร ทะเบียนการเกิด หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.20/1) หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด
(2) มีภูมิลำเนาอยู่ต่อเนื่องในราชอาณาจักร โดยมีรายการบุคคลในทะเบียนบ้านหรือทะเบียนประวัติ ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร แล้วแต่กรณี
(3) ไม่ปรากฏหลักฐานการมีและใช้สัญชาติอื่น
(4) มีความจงรักภักดีและเลื่อมใสระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
(5) มีความประพฤติดี ไม่มีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและถ้าเคยรับโทษคดีอาญา ต้องพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีนับถึงวันที่ยื่นคำร้องขอมีสัญชาติไทย เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือลหุโทษ
(6) ประกอบอาชีพสุจริต และ
(7) เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศโดยมีผลงานหรือความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นที่ประจักษ์ และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีหนังสือรับรองการทำคุณประโยชน์หรือผลงานในสาขาต่าง ๆ จากส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ระดับกรมหรือเทียบเท่ากรมที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
(ก) การศึกษาหรือการกีฬา
(ข) ศิลปวัฒนธรรม
(ค) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(ง) สาขาที่ขาดแคลน หรือสาขาอื่น ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นสมควร
4. ผู้ใดได้รับสัญชาติไทยแล้ว ภายหลังปรากฎว่าการได้มาซึ่งสัญชาติไทยไม่เป็นไปตามลักษณะหรือเงื่อนไขตาม ข้อ 1 ถึง ข้อ 3 หรือบุคคลดังกล่าวกระทำการใด ๆ อันเป็นการ กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงหรือ ขัดต่อประโยชน์ของรัฐหรือเป็นการเหยียดหยามประเทศชาติ หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ให้หน่วยงานรับผิดชอบถอนสัญชาติไทยบุคคลนั้นตามกฎหมาย
การขอแปลงสัญชาติเป็นไทยของคนต่างด้าวทั่วไป (N)
สถานที่ติดต่อ
กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 24 เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330 โทร. 0-2252-1714,0-2252-2708,0-2205-1901
(กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ) / ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน
ตำรวจภูธรจังหวัด ทุกจังหวัด
(กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด)/ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1.บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 5 ฉบับ
หมายเหตุ (ถ้ามี)
2.ทะเบียนบ้านคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (ทร.13/ทร.14)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 5 ฉบับ
หมายเหตุ -
3.ใบสำคัญถิ่นที่อยู่/ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว สำเนาหนังสือ เดินทางในกรณีได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยชั่วคราว
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 5 ฉบับ
หมายเหตุ (ทุกหน้าที่มีการบันทึกรายการ)
4.ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 2 ฉบับ
หมายเหตุ -
5.ทะเบียนการสมรส หากจดทะเบียนสมรสที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศต้องนำใบสำคัญการจดทะเบียนสมรส ที่สถานที่นั้น ๆ ออกให้รับรองว่าถูกต้อง
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 2 ฉบับ
หมายเหตุ -
6.หนังสือเดินทาง
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 5 ฉบับ
หมายเหตุ –
7.สูติบัตร
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 2 ฉบับ
หมายเหตุ -
8.หนังสือรับรองบรรลุนิติภาวะ
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ -
9.รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซ.ม. จำนวน 3 รูป
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (กรณีมีคู่สมรสรูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซ.ม. จำนวน 3 รูป)
10.หนังสือรับรองการประกอบอาชีพ
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 2 ฉบับ
หมายเหตุ (จากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวหรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด)
11.หนังสือรับรองเงินเดือน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ -
12.หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (แสดงหลักฐานการเสียภาษีมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรให้การรับรอง)
13.หลักฐานเงินฝากธนาคาร หรือหนังสือรับรองเงินฝาก
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (ถ้ามี)
14.หลักฐานการบริจาคการกุศลสาธารณประโยชน์ (ไม่ควรน้อยกว่า 5,000 บาท)
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (ถ้ามี)
15.หลักฐานของบริษัท ห้างร้านที่ผู้ยื่นคำขอทำงานอยู่
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ -
16.ภาษีนิติบุคคล (ภงด 50)
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (กรณีผู้ยื่นคำขอมีหุ้นอยู่ในบริษัทหรือห้างร้าน(ย้อนหลังไป1ปี) ถ้ามี)
17.หลักฐานการศึกษาของผู้ยื่นคำขอและบุตรทุกคน
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (ถ้ามี)
18.หนังสือแสดงเจตนาสละสัญชาติเดิม
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ -
ค่าธรรมเนียม
1. คำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ค่าธรรมเนียม 5,000 บาท
2. คำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยสำหรับบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้แปลง ค่าธรรมเนียม 2,500 บาท
3. หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย ค่าธรรมเนียม 500 บาท
4. ใบแทนหนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย ค่าธรรมเนียม 500 บาท
ระยะเวลาในการดำเนินการรวม : 730 วัน
หมายเหตุ
หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข (ถ้ามี) ในการยื่นคำขอ และในการพิจารณาอนุญาต
การได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติเป็นไทย เป็นไปตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 และมาตรา 11, 12 และ 12/1 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 กำหนดให้คนต่างด้าวที่อาจขอแปลงสัญชาติเป็นไทย แบ่งได้ดังนี้
1) คนต่างด้าวที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรา 11
2) คนต่างด้าวที่อยู่ภายใต้เงื่อนไข มาตรา 11
3) คนต่างด้าวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย ตามมาตรา 12 วรรคสอง
4) คนต่างด้าวที่อยู่ภายใต้เงื่อนไข มาตรา 12/1
วิธีการในการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย กำหนดในมาตรา 12 วรรคหนึ่ง กล่าวคือ ผู้ประสงค์จะขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ให้ยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบและวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง(พ.ศ. 2510) ออกตามความในพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2510 กำหนดการยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ต้องยื่นคำขอตามแบบ ป.ช.1 พร้อมด้วยหลักฐานประกอบคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ ให้ยื่นคำขอต่อผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กองบัญชาการตำรวจสันติบาล หากผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดอื่นให้ยื่นคำขอต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนั้นตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2510 เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 กรณีการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508
1. บรรลุนิติภาวะแล้วตามกฎหมายไทยและกฎหมายที่บุคคลนั้นมีสัญชาติ
2. มีความประพฤติดี โดยจะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (พิมพ์ลายนิ้วมือ ส่งตรวจสอบ) พฤติการณ์ทางการเมือง ยาเสพติด และพฤติการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
2.1 ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (โดยพิมพ์ลายนิ้วมือส่งตรวจสอบ) จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร
2.2 ตรวจสอบพฤติการณ์บุคคลและทางการเมืองจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล
2.3 ตรวจสอบพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
2.4 ตรวจสอบพฤติการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
2.5 ตรวจสอบหมายจับจากกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
3. มีอาชีพเป็นหลักฐาน โดยจะต้องมีหนังสือรับรองการประกอบอาชีพจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว หรือสำนักจัดหางานจังหวัด และจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้
3.1 กรณีผู้ขอแปลงสัญชาติเป็นไทยไม่มีความเกี่ยวพันหรือสัมพันธ์กับประเทศไทย
ผู้ยื่นคำขอเป็นคนต่างด้าวทั่วไป จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 80,000 บาท/เดือน โดยแสดงหนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้เป็นหลักฐาน และแสดงหลักฐานการเสียภาษีมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือแสดงหลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีก่อนปีที่ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป ไม่น้อยกว่า 3 ปี และต้องมีหนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้ มาแสดงประกอบด้วย
3.2 กรณีผู้ขอแปลงสัญชาติเป็นไทยมีความเกี่ยวพันหรือสัมพันธ์กับประเทศไทย เช่น สมรสกับบุคคลผู้มีสัญชาติไทย หรือมีบุตรเป็นบุคคลสัญชาติไทย หรือจบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาจากสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ผู้ยื่นคำขอเป็นคนต่างด้าวทั่วไป จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท/เดือน โดยแสดงหนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้เป็นหลักฐาน และแสดงหลักฐานการเสียภาษีมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือแสดงหลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีก่อนปีที่ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ไม่น้อยกว่า 3 ปี และต้องมีหนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้ มาแสดงประกอบด้วย
4. เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง โดยแสดงหลักฐานใบสำคัญถิ่นที่อยู่ หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือหลักฐานทางทะเบียนราษฎร (ท.ร.14)
5. มีภูมิลำเนาในราชอาณาจักรไทยต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยนับจากการได้รับใบสำคัญถิ่นที่อยู่ หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือหลักฐานทางทะเบียนราษฎร (ท.ร.14) ที่แสดงยืนยันได้ว่า มีภูมิลำเนาต่อเนื่องในประเทศไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี
6. มีความรู้ภาษาไทยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยพูดภาษาไทยและฟังภาษาไทยเข้าใจได้ และจะต้องสามารถร้องเพลงชาติไทย และเพลงสรรเสริญพระบารมีได้ พร้อมทั้งผ่านการสัมภาษณ์ ดังนี้
6.1 กรณีผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ ให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย ตามคำสั่งคณะกรรมการกลั่นกรเกี่ยวกับสัญชาติ
6.2 กรณีผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะทำงานสัมภาษณ์ สังเกตพฤติการณ์ และทดสอบความรู้ภาษาไทยแก่ผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง การขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามีและการขอกลับคืนสัญชาติไทย
7. ผู้ยื่นคำขอจะต้องแสดงเอกสารที่ยื่นต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศที่ตนมีสัญชาติ และตั้งอยู่ในประเทศไทยอันเป็นการแสดงเจตนาของผู้ประสงค์จะขอแปลงสัญชาติเป็นไทยที่จะสละสัญชาติเดิม เมื่อได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยแล้ว
8. ผู้ยื่นคำขอจะต้องผ่านเกณฑ์การให้คะแนน รวมกันไม่น้อยกว่า 50 คะแนน จึงจะได้รับการพิจารณา
9. เมื่อผู้ยื่นคำขอได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยแล้ว กรณีประเทศของผู้ยื่นคำขอมีสถานทูตหรือสถานกงสุลตั้งอยู่ในประเทศไทย ให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งสถานทูตหรือสถานกงสุลแห่งประเทศของผู้ยื่นคำขอทราบเกี่ยวกับการได้สัญชาติไทย ส่วนกรณีประเทศของผู้ยื่นคำขอไม่มีสถานทูตหรือสถานกงสุลตั้งอยู่ในประเทศไทย ให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแจ้งไปยังประเทศของผู้ยื่นคำขอเกี่ยวกับการได้สัญชาติไทยดังกล่าวกรณีการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 แก้ไขเพิ่มเติมโดยโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551
1. บรรลุนิติภาวะแล้วตามกฎหมายไทยและกฎหมายที่บุคคลนั้นมีสัญชาติ
2. มีความประพฤติดี โดยจะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (พิมพ์ลายนิ้วมือ ส่งตรวจสอบ) พฤติการณ์ทางการเมือง ยาเสพติด และพฤติการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
2.1 ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (โดยพิมพ์ลายนิ้วมือส่งตรวจสอบ) จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร
2.2 ตรวจสอบพฤติการณ์บุคคลและทางการเมืองจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล
2.3 ตรวจสอบพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
2.4 ตรวจสอบพฤติการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
2.5 ตรวจสอบหมายจับจากกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
3. มีอาชีพเป็นหลักฐาน โดยจะต้องมีหนังสือรับรองการประกอบอาชีพจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว หรือสำนักจัดหางานจังหวัด และจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้
3.1 กรณีผู้ขอแปลงสัญชาติเป็นไทยไม่มีความเกี่ยวพันหรือสัมพันธ์กับประเทศไทย
ผู้ยื่นคำขอเป็นคนต่างด้าวทั่วไป จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 80,000 บาท/เดือน โดยแสดงหนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้เป็นหลักฐาน และแสดงหลักฐานการเสียภาษีมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือแสดงหลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีก่อนปีที่ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป ไม่น้อยกว่า 3ปี และต้องมีหนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้ มาแสดงประกอบด้วย
3.2 กรณีผู้ขอแปลงสัญชาติเป็นไทยมีความเกี่ยวพันหรือสัมพันธ์กับประเทศไทย เช่น สมรสกับบุคคลผู้มีสัญชาติไทย หรือมีบุตรเป็นบุคคลสัญชาติไทย หรือจบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาจากสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ผู้ยื่นคำขอเป็นคนต่างด้าวทั่วไป จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท/เดือน โดยแสดงหนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้เป็นหลักฐาน และแสดงหลักฐานการเสียภาษีมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือแสดงหลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีก่อนปีที่ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ไม่น้อยกว่า 3 ปี และต้องมีหนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้ มาแสดงประกอบด้วย
4. การยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย กรณีได้กระทำความดีความชอบเป็นพิเศษต่อประเทศไทย หรือได้ทำคุณประโยชน์แก่ทางราชการซึ่งรัฐมนตรีเห็นสมควร นอกจากแสดงหลักฐานยืนยันคุณสมบัติตามกฎหมายแล้ว ให้แสดงเอกสารหลักฐานการกระทำความดีความชอบเป็นพิเศษต่อประเทศไทย หรือการได้ทำคุณประโยชน์แก่ทางราชการมาประกอบในคราวเดียวกัน
5. การยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย กรณีเป็นบุตรของผู้ซึ่งได้แปลงสัญชาติเป็นไทย หรือของผู้ได้กลับคืนสัญชาติไทย ต้องแสดงหลักฐานสูติบัตรของบุตร พร้อมหลักฐานจากสถานพยาบาลที่บุตรนั้นเกิด สำหรับกรณีไม่อาจแสดงหลักฐานดังกล่าวได้ ต้องแสดงเอกสารการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) หรือการตรวจทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ หรือสถาบันที่รัฐให้การรับรองซึ่งพิสูจน์ว่าเป็นบุตรจริง
6. การยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย กรณีเป็นภริยาหรือสามีของผู้ซึ่งได้แปลงสัญชาติเป็นไทย ผู้ยื่นคำขอจะต้องจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายมาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ ส่วนกรณีมีบุตรด้วยกันแล้ว จะต้องจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายมาไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยผ่านการตรวจสอบสถานภาพการสมรส จากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง นอกจากนี้ผู้ยื่นคำขอและคู่สมรสจะต้องไม่จดทะเบียนสมรสโดยปกปิดข้อเท็จจริง โดยผ่านการสัมภาษณ์เพื่อสอบถามเจตนารมณ์และสังเกตพฤติการณ์ของคู่สมรส ดังนี้
6.1 กรณีผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ ให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย ตามคำสั่งคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ
6.2 กรณีผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะทำงานสัมภาษณ์ สังเกตพฤติการณ์ และทดสอบความรู้ภาษาไทยแก่ผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย
7. การยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย กรณีเป็นภริยาหรือสามีของผู้ได้กลับคืนสัญชาติไทย ผู้ยื่นคำขอจะต้องจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายมาไม่น้อยกว่า 3 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ ส่วนกรณีมีบุตรด้วยกันแล้ว จะต้องจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายมาไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยผ่านการตรวจสอบสถานภาพการสมรสจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง นอกจากนี้ผู้ยื่นคำขอและคู่สมรสจะต้องไม่จดทะเบียนสมรสโดยปกปิดข้อเท็จจริง โดยผ่านการสัมภาษณ์เพื่อสอบถามเจตนารมณ์และสังเกตพฤติการณ์ของคู่สมรส ดังนี้
7.1 กรณีผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ ให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย ตามคำสั่งคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ
7.2 กรณีผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะทำงานสัมภาษณ์ สังเกตพฤติการณ์ และทดสอบความรู้ภาษาไทยแก่ผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย
8. การยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย กรณีเป็นสามีของผู้มีสัญชาติไทย ผู้ยื่นคำขอจะต้องจดทะเบียนสมรสกับผู้มีสัญชาติไทยมาไม่น้อยกว่า 3 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ ส่วนกรณีมีบุตรด้วยกันแล้ว จะต้องจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายมาไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยผ่านการตรวจสอบสถานภาพการสมรสจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง นอกจากนี้ผู้ยื่นคำขอและคู่สมรสจะต้องไม่จดทะเบียนสมรสโดยปกปิดข้อเท็จจริง โดยผ่านการสัมภาษณ์เพื่อสอบถามเจตนารมณ์และสังเกตพฤติการณ์ของคู่สมรส ดังนี้
8.1 กรณีผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ ให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย ตามคำสั่งคณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ
8.2 กรณีผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะทำงานสัมภาษณ์ สังเกตพฤติการณ์ และทดสอบความรู้ภาษาไทยแก่ผู้ยื่นคำขอที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง การขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามีและการขอกลับคืนสัญชาติไทย
9. เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน (ท.ร.13หรือ ท.ร.14)
10. ผู้ยื่นคำขอจะต้องแสดงเอกสารที่ยื่นต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศที่ตนมีสัญชาติ และตั้งอยู่ในประเทศไทยอันเป็นการแสดงเจตนาของผู้ประสงค์จะขอแปลงสัญชาติเป็นไทยที่จะสละสัญชาติเดิม เมื่อได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยแล้ว
11. ผู้ยื่นคำขอต้องผ่านเกณฑ์การให้คะแนน รวมกันไม่น้อยกว่า 50คะแนน จึงจะได้รับการพิจารณา
12. เมื่อผู้ยื่นคำขอได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยแล้ว กรณีประเทศของผู้ยื่นคำขอมีสถานทูตหรือสถานกงสุลตั้งอยู่ในประเทศไทย ให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งสถานทูตหรือสถานกงสุลแห่งประเทศของผู้ยื่นคำขอทราบเกี่ยวกับการได้สัญชาติไทย ส่วนกรณีประเทศของผู้ยื่นคำขอไม่มีสถานทูตหรือสถานกงสุลตั้งอยู่ในประเทศไทย ให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแจ้งไปยังประเทศของผู้ยื่นคำขอเกี่ยวกับการได้สัญชาติไทยดังกล่าว กรณีการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ตามมาตรา 12 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551
1. มีความประพฤติดี โดยผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (พิมพ์ลายนิ้วมือ ส่งตรวจสอบ) พฤติการณ์ทางการเมือง ยาเสพติด และพฤติการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.1 ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (โดยพิมพ์ลายนิ้วมือส่งตรวจสอบ) จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร
1.2 ตรวจสอบพฤติการณ์บุคคลและทางการเมืองจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล
1.3 ตรวจสอบพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
1.4 ตรวจสอบพฤติการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
1.5 ตรวจสอบหมายจับจากกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2. หลักฐานสูติบัตรของบุตร พร้อมหลักฐานจากสถานพยาบาลที่เด็กนั้นเกิด
3. กรณีไม่อาจแสดงหลักฐาน ตามข้อ 2. ได้ ต้องแสดงเอกสารการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) หรือการตรวจทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ หรือสถาบันที่รัฐให้การรับรองซึ่งพิสูจน์ว่าเป็นบุตรจริง
4. เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และมีชื่อในทะเบียนบ้าน (ท.ร.13 หรือ ท.ร.14)
5. เมื่อผู้ยื่นคำขอได้รับการอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยแล้ว กรณีของประเทศของผู้ยื่นคำขอมีสถานทูตหรือสถานกงสุลตั้งอยู่ในประเทศไทย ให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งสถานทูตหรือสถานกงสุลแห่งประเทศของผู้ยื่นคำขอทราบเกี่ยวกับการได้สัญชาติไทย ส่วนกรณีประเทศของผู้ยื่นคำขอไม่มีสถานทูตหรือสถานกงสุลตั้งอยู่ในประเทศไทย ให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแจ้งไปยังประเทศของผู้ยื่นคำขอเกี่ยวกับการได้สัญชาติไทยดังกล่าว
การขอถือสัญชาติไทยตามสามีผู้มีสัญชาติไทยของคนต่างด้าวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย (N)
สถานที่ติดต่อ
สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ถนนลำลูกกา (คลอง 9) ตำบลบึงทองหลาง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
โทร. 0-2791-7329-30, 32-34/ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ/ยกเว้นวันหยุดที่ทางราชการกำหนด)
หรือ
ที่ว่าการอำเภอ/ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด/ยกเว้นวันหยุดที่ทางราชการกำหนด)(กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด/ยกเว้นวันหยุดที่ทางราชการกำหนด)
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1.บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่ผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
2.ทะเบียนบ้านคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (ทร.13/ทร.14)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่ผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
3.ทะเบียนสมรส
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่ผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
4.รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซ.ม. จำนวน 6 รูป
หมายเหตุ (หลักฐานที่ผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
5.หนังสือรับรองการประกอบอาชีพ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว หรือสำนักจัดหางานจังหวัด กรณีผู้ยื่นคำขอฯ นำรายได้ของตนไปรวมกับรายได้ของสามี เพื่อให้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด/หลักฐานที่ผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
6.หนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้
ฉบับจริง 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่ผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่/กรณีผู้ยื่นคำขอฯ นำรายได้ของตนไปรวมกับรายได้ของสามี)
7.หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานการเสียภาษีเงินได้ในประเทศไทยในรอบปีที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรให้การรับรอง)
8.สูติบัตร หรือทะเบียนคนเกิด
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่สามีผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (ถ้ามี))
9.บัตรประจำตัวประชาชน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (หรือสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ/หลักฐานที่สามีผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
10.ทะเบียนบ้าน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่สามีผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
11.หนังสือเดินทาง
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่สามีผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (ถ้ามี))
12.ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่สามีผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
13.ใบสำคัญทางทหาร สด.9
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หรือบัญชีทหาร สด.1 หรือหนังสือสำคัญทหารนอกประจำการ สด.8/หลักฐานที่สามีผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อ เจ้าหน้าที่)
14.รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซ.ม. จำนวน 6 รูป
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่สามีผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
15.หนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่สามีผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
16.หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานการเสียภาษีเงินได้ในประเทศไทยในรอบปีที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรให้การรับรอง)
17.หลักฐานเอกสารบิดา มารดา ของสามีฯ (บัตรประจำตัวประชาชน/ทะเบียนบ้าน) หรือหลักฐานอื่นใดที่สามารถนำไปสืบค้นได้
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (หลักฐานที่สามีผู้ยื่นคำขอฯ ต้องนำไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่)
18.สูติบัตรของบุตร
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (พร้อมรูปถ่ายของบุตร ขนาด 4 x 6 ซ.ม. 2 รูป)
19.บัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของพยาน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (พยานบุคคลที่รู้เห็นว่าได้อยู่กินฉันท์สามีภรรยากันจริง 4 ปาก)
ค่าธรรมเนียม 10 บาท
ระยะเวลาในการดำเนินการรวม : 475 วัน
หมายเหตุ
หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข (ถ้ามี) ในการยื่นคำขอ และในการพิจารณาอนุญาต
มาตรา 9แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ. 2508กำหนดให้หญิงซึ่งเป็นคนต่างด้าวและได้สมรสกับผู้มีสัญชาติไทยถ้าประสงค์จะได้สัญชาติไทย ให้ยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบและวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
กฎกระทรวงกำหนดแบบ วิธีการ และค่าธรรมเนียมในการยื่นคำขอเกี่ยวกับการได้สัญชาติไทย ฯ สำหรับคนต่างด้าวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย กำหนดให้ยื่นคำขอตามแบบ ชกน.1 พร้อมด้วยหลักฐานประกอบคำขอต่อนายอำเภอ ตามภูมิลำเนาของผู้ยื่นคำขอ และหากมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ให้ยื่นคำขอต่อผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง
แนวทางประกอบการใช้ดุลพินิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
1. ผู้ยื่นคำขอจะต้องมีภูมิลำเนาในประเทศไทย และมีชื่อในทะเบียนบ้าน (ท.ร.13หรือ ท.ร.14)
2. ผู้ยื่นคำขอจะต้องจดทะเบียนสมรสกับชายไทยถูกต้องตามกฎหมายมาไม่น้อยกว่า 3ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ ส่วนกรณีมีบุตรกับคู่สมรสซึ่งเป็นชายไทย จะต้องจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายมาไม่น้อยกว่า 1ปี
3. สามีผู้ยื่นคำขอจะต้องมีอาชีพเป็นหลักฐาน โดยมีรายได้ไม่ต่ำกว่าหรือรายได้เฉลี่ย 10,000บาท/เดือน ทั้งนี้จะต้องมีหนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้ และแสดงหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ในประเทศไทยในรอบปีที่ผ่านมา ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอประกอบอาชีพ ต้องแสดงหนังสือรับรองการประกอบอาชีพจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวหรือสำนักจัดหางานจังหวัด โดยสามารถนำรายได้ของตนไปรวมกับรายได้ของสามี เพื่อให้ถึงเกณฑ์ ที่กำหนดข้างต้น โดยแสดงหนังสือรับรองเงินเดือน/รายได้ และแสดงหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ในประเทศไทยในรอบปีที่ผ่านมาต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย
4. ผู้ยื่นคำขอจะต้องผ่านการตรวจสอบสถานภาพการสมรสและประวัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
4.1 ตรวจสอบสถานภาพการสมรสจากสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง
4.2 ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (พิมพ์ลายนิ้วมือ) จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร
4.3 ตรวจสอบพฤติการณ์บุคคลและทางการเมืองจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล
4.4 ตรวจสอบพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
4.5 ตรวจสอบพฤติการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
4.6 ตรวจสอบหมายจับจากกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
5. ผู้ยื่นคำขอและคู่สมรสจะต้องไม่จดทะเบียนสมรสโดยปกปิดข้อเท็จจริง และต้องผ่านการสัมภาษณ์เพื่อสอบถามเจตนารมณ์และสังเกตพฤติการณ์ของคู่สมรสจาก
5.1 กรณีผู้ยื่นคำขอฯ มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ ให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามี และการขอกลับคืนสัญชาติไทย
5.2 กรณีผู้ยื่นคำขอฯ มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะทำงานระดับจังหวัด
การขอแปลงสัญชาติเป็นไทยของคนต่างด้าวทั่วไป
สถานที่ติดต่อ
กทม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล
ต่างจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. หนังสือรับรองบรรลุนิติภาวะ
สำเนา 5 ฉบับ
2. สำเนาใบสำคัญถิ่นที่อยู่/ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว สำเนาหนังสือเดินทางในกรณีได้รับอนุญาตให้อยู่ใน ราชอาณาจักรไทยชั่วครา
สำเนา 5 ฉบับ
หมายเหตุ (ทุกหน้าที่มีการบันทึกรายการ)
3. หนังสือรับรองเงินเดือน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
4. หลักฐานการเสียเงินได้บุคคลธรรมดา มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
ฉบับจริง 1 ฉบับ
5. สำเนาทะเบียนการสมรส หากจดทะเบียนสมรสที่สถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ ต้องนำใบสำคัญการจดทะเบียนสมรสที่สถานที่นั้น ๆ ออกให้รับรองว่าถูกต้อง
สำเนา 2 ฉบับ
6. รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซ.ม.จำนวน 3 รูป ถ้ามี
ฉบับจริง 12 ชุด
หมายเหตุ (-กรณีมีคู่สมรสรูปถ่ายขนาด4x6 ซ.ม.)
7. ทะเบียนบ้านคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
สำเนา 5 ชุด
8. สำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนา 5 ชุด
9. สูติบัตร
ฉบับจริง 1 ชุด
สำเนา 2 ชุด
10. ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ
ฉบับจริง 1 ชุด
สำเนา 2 ชุด
11. สำเนาหนังสือเดินทาง
สำเนา 5 ชุด
12. หลักฐานเงินฝากธนาคาร หรือหนังสือรับรองเงินฝาก
ฉบับจริง 1 ชุด
สำเนา 1 ชุด
13. หลักฐานการบริจาคการกุศลสาธารณะโยชน์ (ไม่ควร น้อยกว่า 5,000 บาท)
ฉบับจริง 1 ชุด
สำเนา 1 ชุด
14. หลักฐานของบริษัท ห้างร้านที่ผู้ยื่นคำขอทำงานอยู่
ฉบับจริง 1 ชุด
สำเนา 1 ชุด
15. ภาษีนิติบุคคล (ภงด 50)
ฉบับจริง 1 ชุด
สำเนา 1 ชุด
หมายเหตุ (-กรณีผู้ยื่นคำขอมีหุ้นอยู่ในบริษัทหรือห้างร้าน(ย้อนหลังไป1ปี) ถ้ามี)
16. หลักฐานการศึกษาของผู้ยื่นคำขอและบุตรทุกคน
ฉบับจริง 1 ชุด
สำเนา 1 ชุด
17.หนังสือรับรองการประกอบอาชีพ บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย คำขอแปลงสัญชาติไทยสำหรับบุตร
ค่าธรรมเนียม
1. คำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย 5,000 บาท
2. คำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยสำหรับบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้แปลง 2,500 บาท
3. หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย 500 บาท
4. ใบแทนหนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทย 500 บาท
ระยะเวลา 730 วัน
หมายเหตุ
การยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย
การขอแปลงสัญชาติเป็นไทยของคนต่างด้าวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย
สถานที่ติดต่อ
กทม. สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง จังหวัดปทุมธานี
ต่างจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
สำเนา 2 ฉบับ
หมายเหตุ (กรณีมีคู่สมรส ให้จัดเตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวของคู่สมรส จำนวน 2 ชุด)
2. ทะเบียนบ้านคนผู้ซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
สำเนา 2 ฉบับ
3. สำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
สำเนา 6 ฉบับ
หมายเหตุ (ทุกหน้าที่มีการบันทึกรายการ)
4. สำเนาใบสำคัญถิ่นที่อยู่
สำเนา 6 ฉบับ
หมายเหตุ (ทุกหน้าที่มีการบันทึกรายการ)
5. ใบอนุญาตทำงาน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 2 ฉบับ
6. สำเนาทะเบียนบ้านทั้้งครอบครัว
สำเนา 6 ชุด
หมายเหตุ (กรณีมีสามี/ภรรยา/บุตร)
7. ทะเบียนสมรส
สำเนา 2 ฉบับ
หมายเหตุ (กรณีมีคู่สมรส ให้แนบทะเบียนสมรสด้วย)
8. รูปถ่ายขนาด ๔ x ๖ ซ.ม.
- ผู้ยื่นคำขอฯ
- ภรรยา และบุตร (ถ้ามี)
ฉบับจริง 10 ฉบับ
9. บัตรประจำตัวประชาชน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
10. สำเนาทะเบียนบ้าน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
11. สูติบัตร
สำเนา 2 ฉบับ
หมายเหตุ (ถ้ามีบุตร )
12. สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล (ถ้ามี)
สำเนา 2 ฉบับ
13. หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สำเนา 2 ชุด
หมายเหตุ (แสดงหลักฐานการเสียภาษีย้อนหลัง 3 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรให้การรับรอง)
14. หนังสือรับรองเงินเดือน/รับรองการทำงาน
ฉบับจริง 1 ชุด
สำเนา 1 ชุด
หมายเหตุ (หนังสือรับรองเงินเดือน/รับรองการทำงาน ต้องระบุตำแหน่ง อัตราเงินเดือน ออกให้โดย บริษัท ห้างร้าน ที่ผู้ยื่นคำขอฯ ทำงาน และลงนามโดยผู้มีอำนาจ)
15. หนังสือเดินทาง
สำเนา 6 ชุด
หมายเหตุ (ทุกหน้าที่มีรายการ)
16. หลักฐานแสดงการจดทะเบียนบริษัท ห้างร้าน ห้างหุ้นส่วน
สำเนา 2 ชุด
หมายเหตุ (เอกสารบริษัท เช่น ทะเบียนการค้า ทะเบียนพาณิชย์ หนังสือรับรองการจดทะเบียน เป็นต้น)
17. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน(พยาน)
สำเนา 2 ชุด
18. สำเนาทะเบียนบ้าน (พยาน)
สำเนา 2 ชุด
หมายเหตุ (สำเนาทะเบียนบ้านพยาน จำนวน 2 คน)
19. หลักฐานทางการศึกษา
สำเนา 2 ชุด
20. หลักฐานการทำคุณประโยชน์ต่าง ๆ
สำเนา 2 ชุด
ค่าธรรมเนียม
1. คำขอแปลงสัญชาติ 1,000 บาท
2. คำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยสำหรับบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้แปลงสัญชาติคนหนึ่ง 500 บาท
3. หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทยของคนต่างด้าวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย 100 บาท
4. ใบแทนหนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทยของคนต่างด้าวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย 100 บาท
ระยะเวลา 730 วัน
หมายเหตุ
การยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยของบุคคลซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย ระยะเวลาในการให้บริการอาจไม่เป็นไปตามที่กำหนด เนื่องจากในขั้นตอนการเสนอขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากในหลวงนั้น ขึ้นอยู่กับพระราชวินิจฉัย จึงไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนได้
การสละสัญชาติไทย กรณีคนไทยสมรสกับคนต่างด้าว
สถานที่ติดต่อ
กทม. กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่างจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด
ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลในต่างประเทศ
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. สูติบัตร ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หรือทะเบียนคนเกิด หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด)
2. บัตรประจำตัวประชาชน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
3. ทะเบียนบ้าน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
4. ทะเบียนสมรส
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (ถ้าเป็นภาษาต่างประเทศต้องได้รับการแปลเป็นภาษาไทยและรับรองการแปลให้ถูกต้องด้วย)
5. หนังสือรับรองการเข้าถือสัญชาติของภริยาหรือสามี
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (ต้องได้รับการแปลเป็นภาษาไทยและรับรองการแปลให้ถูกต้องด้วย ) กบ.208 การขอกลับคืนสัญชาติไทย กรณีสละ สัญชาติไทยโดยการสมรสกับบุคคนต่างด้าวตามมาตรา 10 และต่อมาได้ขาดจากการสมรส
6. หนังสือเดินทาง
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอและคู่สมรส พร้อมสำเนาทุกหน้าที่มีตราประทับ)
7. ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
8. รูปถ่ายขนาด 4x6 ซ.ม. (2 นิ้ว) ของผู้ยื่นคำขอฯ และคู่สมรส คนละ 12 รูป
ค่าธรรมเนียม คำขอสละสัญชาติไทย 5 บาท
ระยะเวลา 325 วัน
หมายเหตุ
-
การสละสัญชาติไทย กรณีเด็กที่มีสองสัญชาติซึ่งเป็นบุตรของคนไทยกับคนต่างด้าว
สถานที่ติดต่อ
กทม. กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่างจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด
ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลในต่างประเทศ
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. สูติบัตร
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หรือทะเบียนคนเกิด หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด)
2. ทะเบียนบ้าน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
3. บัตรประจำตัวประชาชน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
4. ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
5. หนังสือรับรองของประเทศที่ได้เข้าถือสัญชาตินั้น
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (ต้องได้รับการแปลเป็นภาษาไทย และรับรองการแปลให้ถูกต้องด้วย) กบ.208 การขอกลับคืนสัญชาติไทย กรณีสละสัญชาติไทยโดยการสมรสกับบุคคลต่างด้าวตามมาตรา 10 และต่อมาได้ขาดจากการสมรส
6. หนังสือเดินทาง
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (พร้อมสำเนาทุกหน้าที่มีตราประทับ)
7. หลักฐานที่แสดงสัญชาติของบิดาหรือมารดา
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
8. รูปถ่าย 4x6 ซ.ม. (2 นิ้ว) ของผู้ยื่นคำขอ
จำนวน 12 รูป
9. รูปถ่าย 4x6 ซม. (2 นิ้ว) ของบิดามารดาผู้ขอ
จำนวน 6 รูป
ค่าธรรมเนียม คำขอสละสัญชาติไทย 5 บาท
ระยะเวลา 430 วัน
หมายเหตุ
-
การสละสัญชาติไทยของคนที่มี 2 สัญชาติทั่วไป
สถานที่ติดต่อ
กทม. กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่างจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด
ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลในต่างประเทศ
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. สูติบัตร
ฉบับจริง 1 ฉบับ สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หรือทะเบียนคนเกิด หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด)
2. ทะเบียนบ้าน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
3. บัตรประจำตัวประชาชน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
4. ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
5. หนังสือรับรองของประเทศที่ได้เข้าถือสัญชาตินั้น
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (ต้องได้รับการแปลเป็นภาษาไทย และรับรองการแปลให้ถูกต้องด้วย)กบ.208 การขอกลับคืนสัญชาติไทย กรณีสละสัญชาติไทยโดยการสมรสกับบุคคลต่างด้าวตามมาตรา 10 และต่อมาได้ขาดจากการสมรส
6. หนังสือเดินทาง
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (พร้อมสำเนาทุกหน้าที่มีตราประทับ)
7. หลักฐานที่แสดงสัญชาติของบิดาหรือมารดา
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
8. รูปถ่าย 4x6 ซม. (2 นิ้ว) ของผู้ยื่นคำขอ
จำนวน 12 รูป
9. รูปถ่าย 4x6 ซม. (2 นิ้ว) ของบิดามารดาผู้ขอ
จำนวน 6 รูป
ค่าธรรมเนียม คำขอสละสัญชาติไทย 5 บาท
ระยะเวลา 430 วัน
หมายเหตุ
-
การขอกลับคืนชาติไทย กรณีสละสัญชาติไทยโดยการสมรสกับคนต่างด้าว และได้ขาดจากการสมรสแล้ว
สถานที่ติดต่อ
กทม. กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่างจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด
ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต หรือสาถนกงสุลในต่างประเทศ
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. สูติบัตร / ทะเบียนคนเกิด
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
2. ทะเบียนบ้านคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
3. หลักฐานการขาดจากการสมรส
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
4. รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซม. ของผู้ยื่นคำขอ จำนวน 12 รูป
5. หลักฐานเอกสารที่แสดงว่าผู้ขอเป็นคนเกิดในราชอาณาจักรไทย หรือเคยมีสัญขาติไทยมาก่อน
6. พยานบุคคล 4 คน
7. หนังสือเดินทาง
8. เอกสารการเข้าถือสัญชาติของภริยาหรือสามี
9. เอกสารหลักฐานการศึกษาในประเทศไทย
10.เอกสารหลักฐานเคยช่วยเหลือการกุศลหรือสาธารณะประโยชน์
11.ใบสำคัญประจำตัวต่างด้าวและรายการต่ออายุครั้งสุดท้าย
ค่าธรรมเนียม : 1000 บาท
ระยะเวลา : 325 วัน
หมายเหตุ
-
การขอกลับคืนสัญชาติไทยของบุคคลต่างด้าวทั่วไป
สถานที่ติดต่อ
กทม. กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่างจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด
ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลในต่างประเทศ
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. สูติบัตร
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หรือทะเบียนคนเกิด หรือหนังสือรับรองการเกิด)
2. ทะเบียนบ้าน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
3. หลักฐานเอกสารที่แสดงว่า ผู้ขอเป็นคนเกิดในราชอาณาจักรไทย หรือเคยมีสัญชาติไทยมาก่อน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
4. รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซ.ม. (2 นิ้ว) ของผู้ยื่นคำขอ จำนวน 12 รูป
5. รูปถ่ายขนาด 4x6 ซ.ม. (2 นิ้ว) ของบิดามารดาผู้ขอ จำนวน 6 รูป
*กบ.208 การขอกลับคืนสัญชาติไทย กรณีสละสัญชาติไทยโดยการสมรสกับบุคคลต่างด้าวตามมาตรา 10 และต่อมาได้ขาดจากการสมรส
ค่าธรรมเนียม คำขอกลับคืนสัญชาติไทย 1,000 บาท
ระยะเวลา 430 วัน
หมายเหตุ
-
การขอกลับคืนสัญชาติไทยของคนต่างด้าวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย
สถานที่ติดต่อ
กทม. สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง
ต่างจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ
ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลในต่างประเทศ
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. สูติบัตร
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (หรือทะเบียนคนเกิด หรือหนังสือรับรองการเกิด)
2. ทะเบียนบ้าน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
3. หลักฐานเอกสารที่แสดงว่า ผู้ขอเป็นคนเกิดในราชอาณาจักรไทย หรือเคยมีสัญชาติไทยมาก่อน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
4. รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซ.ม. (2 นิ้ว) ของผู้ยื่นคำขอ จำนวน 12 รูป
5. รูปถ่ายขนาด 4x6 ซ.ม. (2 นิ้ว) ของบิดามารดาผู้ขอ จำนวน 6 รูป
*กบ.208 การขอกลับคืนสัญชาติไทย กรณีสละสัญชาติไทยโดยการสมรสกับบุคคลต่างด้าวตามมาตรา 10 และต่อมา ได้ขาดจากการสมรส
ค่าธรรมเนียม คำขอกลับคืนสัญชาติไทยสำหรับคนต่างด้าวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย 200 บาท
ระยะเวลา 450 วัน
หมายเหตุ
-
การพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น (N)
สถานที่ติดต่อ
สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ)/ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน
(หมายเหตุ: -)
สำนักทะเบียนอำเภอ (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด)/ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน
(หมายเหตุ: -)
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1.บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติ/บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
2.ทะเบียนบ้านคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (ทร.13/ทร.14) หรือทะเบียนประวัติ (ท.ร.38 ข)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
3.สูติบัตร หรือหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.20/1) หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
4.ทะเบียนประวัติชนกลุ่มน้อย /แบบสำรวจเพื่อจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (แบบ 89)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง๗)
5.บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยของบิดาและมารดาของผู้ขอ (ถ้ามี)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
6.ผังแสดงเครือญาติที่มีผู้น่าเชื่อถือที่มีสัญชาติไทยจำนวน 2 คนให้การรับรอง
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
7.หนังสือหรือหลักฐานรับรองการศึกษา (ถ้ามี)
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
8.ผลการตรวจพิสูจน์ DNA (ถ้ามี)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ -
9.รูปถ่าย 4 x 6 ซ.ม. จำนวน 5 รูป
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ (กรณีผู้ยื่นคำขอยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือผู้ไร้ความสามารถ ใช้รูปถ่ายจำนวน 8 รูป)
ค่าธรรมเนียม 0 บาท
ระยะเวลาในการดำเนินการรวม 187 วัน
หมายเหตุ
หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข (ถ้ามี) ในการยื่นคำขอ และในการพิจารณาอนุญาต
หลักเกณฑ์การพิจารณาความเป็นคนไทยพลัดถิ่น
คุณสมบัติของผู้ที่จะยื่นคำขอ
1. เป็นผู้ซึ่งได้รับการสำรวจ จัดทำทะเบียนประวัติและเอกสารแสดงตนไว้ในกลุ่มซึ่งระบุไว้ว่ามีเชื้อสายไทย
2. อาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันโดยมีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร
3. ปัจจุบันไม่ได้ถือสัญชาติของประเทศอื่น
4. มีรูปร่างลักษณะและวิถีชีวิตเหมือนคนไทย และ สามารถพูดและฟังภาษาไทยเข้าใจ
5. สามารถแสดงผังเครือญาติซึ่งน่าเชื่อถือว่าเป็นผู้มีเชื้อสายไทย และ มีผู้ที่น่าเชื่อถือซึ่งมีสัญชาติไทย ให้การรับรองหรือมีหลักฐานผลการตรวจทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถแสดงถึงความเป็นญาติกับผู้ที่มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
6. มีความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ และ เลื่อมใสการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
*ดำเนินการในพื้นนที่เป้าหมายได้แก่ จังหวัดตราด จังหวัดตาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดระนองและจังหวัดอื่น ๆ
วิธีการ
บุคคลที่มีคุณสมบัติยื่นคำขอด้วยตนเอง(บรรลุนิติภาวะ) หรือ บิดามารดาผู้ปกครอง ยื่นคำขอแทน (กรณียังไม่บรรลุนิติภาวะ) ยื่นได้ที่สำนักบริหารการทะเบียน (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ) หรือยื่นได้ที่สำนักทะเบียนอำเภอ (ที่ว่าการอำเภอ) (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด)
เงื่อนไข
กรณีคณะกรรมการรับรองการเป็นคนไทยพลัดถิ่น มีมติให้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติมระยะเวลาอาจไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้
การขอเปลี่ยนแปลงสถานะในเอกสารการทะเบียนราษฎรสำหรับบุตรคนไทยพลัดถิ่น (N)
สถานที่ติดต่อ
สำนักทะเบียนอำเภอ/ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน
(หมายเหตุ: (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอ))
สำนักทะเบียนท้องถิ่น/ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน
(หมายเหตุ: (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัดในเขตพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสำนักทะเบียน))
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1.บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยหรือบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
2.ทะเบียนบ้านคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (ท.ร.13/ท.ร.14) หรือทะเบียนประวัติ (ท.ร.38 ข)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
3.สูติบัตร หรือหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.20/1) หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
4.บัตรประจำตัวประชาชนของบิดาหรือมารดาของผู้ขอ
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ -
5.หนังสือรับรองความเป็นคนไทยหลักฐานของบิดาหรือมารดา
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
6.หนังสือหรือหลักฐานรับรองการศึกษา (ถ้ามี)
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
7.ประกาศ กระทรวงมหาดไทย หรือราชกิจจานุเบกษาแสดงการได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
8.หลักฐานแสดงการได้รับอนุมัติให้แปลงสัญชาติเป็นไทยหรือได้สัญชาติไทยก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (ของผู้ขอ)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 1 ฉบับ
หมายเหตุ (รับรองสำเนาถูกต้อง)
9.ผลการตรวจพิสูจน์ DNA (ถ้ามี)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ -
10.รูปถ่าย 4 x 6 ซ.ม. จำนวน 1 รูป
ฉบับจริง 0 ฉบับ
สำเนา 0 ฉบับ
หมายเหตุ -
ค่าธรรมเนียม 0 บาท
ระยะเวลาในการดำเนินการรวม 72 วัน
หมายเหตุ
หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข (ถ้ามี) ในการยื่นคำขอ และในการพิจารณาอนุญาต
คุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอ
1. ผู้ยื่นคำขอเป็นบุตรของบุคคลที่ผ่านการพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นจากคณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น โดยบุตรนั้นจะต้องไม่ถือสัญชาติของประเทศอื่น หรือ
2. ผู้ยื่นคำขอเป็นคนไทยพลัดถิ่นที่มีสัญชาติไทยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติหรือได้สัญชาติไทยตามมาตราอื่นๆ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.2508 รวมแก้ไขเพิ่มเติม
วิธีการ
บุคคลที่มีคุณสมบัติยื่นคำขอด้วยตนเอง(บรรลุนิติภาวะ) หรือ บิดามารดาผู้ปกครอง ยื่นคำขอแทน (กรณียังไม่บรรลุนิติภาวะ) ยื่นได้ที่สำนักบริหารการทะเบียน (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ) หรือยื่นได้ที่สำนักทะเบียนอำเภอ (ที่ว่าการอำเภอ)หรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น(กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด)
การขอให้พิจารณาเหตุความจำเป็นที่จะต้องมีสัญชาติไทยของนักเรียนนักศึกษาที่เกิดในประเทศไทยและยังเรียนไม่จบปริญญาตรี
สถานที่ติดต่อ
สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ)/ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน
(หมายเหตุ: -)
สำนักทะเบียนอำเภอ (กรณีมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด)/ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน
(หมายเหตุ: -)
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (ของผู้ขอ)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 3 ฉบับ
2. ทะเบียนบ้านคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (ท.ร.13 หรือท.ร.14) ทะเบียนประวัติ (ท.ร.38 ก, ท.ร.38 ข, ท.ร.38/1)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 3 ฉบับ
3. สูติบัตร หรือหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.20/1) หรือหนังสือรับรองสถานที่เกิด
ฉบับจริง 1 ฉบับ
สำเนา 3 ฉบับ
4. หลักฐานรับรองผลการศึกษาหรือหลักฐานการเรียน
สำเนา 3 ฉบับ
5. คำรับรองของพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือหรือทะเบียนรับบุตรบุญธรรม (กรณีผู้ขอเป็นบุตรบุญธรรม) หลักฐานการเป็นผู้มีสัญชาติไทยของบิดาหรือมารดา (กรณีมีบิดาหรือมารดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย) ประกาศนียบัตร ประกาศเกียรติคุณ หรือหนังสือรับรองที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ (กรณีเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกจากส่วนราชการให้เป็นตัวแทนไปแข่งขัน, เป็นผู้ที่เคยทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย, เป็นผู้ไม่สามารถส่งกลับประเทศต้นทาง)
สำเนา 1 ฉบับ
6. พยานบุคคลที่รู้เห็นเรื่องการอยู่อาศัยในประเทศไทย จำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน (พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของพยาน)
ฉบับจริง 1 ฉบับ
7. รูปถ่ายขนาด 3 นิ้ว จำนวน 3 รูป
ค่าธรรมเนียม -
ระยะเวลา 40 วัน
หมายเหตุ
การพิจารณาเหตุความจำเป็นที่จะต้องมีสัญชาติไทยของนักเรียน นักศึกษา ที่เกิดในประเทศไทยและไม่ได้สัญชาติไทยโดยมีบิดา และมารดาเป็นคนต่างด้าวอื่นที่มิใช่ชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธ์ และยังเรียนไม่จบปริญญาตรีแต่ประสงค์จะขอมีสัญชาติไทยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การสั่งให้คนที่เกิดในราชอาณาจักรและไม่ได้รับสัญชาติไทย โดยมีบิดาและมารดาเป็นคนต่างด้าวได้สัญชาติไทยเป็นการทั่วไป และการให้สัญชาติไทยเป็นการเฉพาะราย ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 นักเรียน นักศึกษาที่จะขอมีสัญชาติไทยในกรณีเหตุความจำเป็น จะต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
1. มีบิดามารดาเป็นผู้ถือสัญชาติไทย แต่การได้รับสัญชาติของบิดาและมารดานั้น ไม่มีผลต่อการได้สัญชาติของบุตร เช่น เด็กที่เกิดจากบิดาและมารดาเป็นคนต่างด้าว ต่อมาบิดาหรือมารดาของเด็กนั้นได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยหรือได้กลับคืนสัญชาติไทย แต่การได้สัญชาติไทยของบิดาหรือมารดามีผลตามกฎหมาย (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา) ภายหลังวันที่บุตรเกิด ทำให้บุตรยังคงไม่ได้รับสัญชาติไทย เป็นต้น โดยนักเรียน นักศึกษาที่เป็นบุตรจะต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี นับถึงวันที่บุตรนั้นยื่นคำขอมีสัญชาติไทย
2. เป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมายของคนสัญชาติไทย (ได้จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมแล้ว) และได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยกับผู้รับบุตรบุญธรรมหรือครอบครัวของผู้รับบุตรบุญธรรม ที่เป็นคนสัญชาติไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี
3. มีบิดาหรือมารดาเป็นคนที่ได้รับสัญชาติไทยตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด แต่การให้สัญชาติไทยตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงบุตรของบุคคลดังกล่าวที่เกิดในประเทศไทย ทำให้บุตรยังคงไม่ได้รับสัญชาติไทย เช่น เด็กที่เกิดจากบิดาหรือมารดาที่ได้รับการจัดทำทะเบียนประเภท 0 กลุ่ม 89 ในกลุ่มนักเรียน นักศึกษาไร้สัญชาติ ต่อมาบิดาหรือมารดานั้นเรียนจบปริญญาตรีและได้รับสัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559 โดยขณะยื่นเรื่องขอมีสัญชาติไทย บิดาหรือมารดาคนดังกล่าวมีบุตรที่เกิดในประเทศไทยและไม่ได้สัญชาติไทยอยู่ด้วย การได้สัญชาติไทยของบิดาหรือมารดากรณีนี้ไม่ส่งผลต่อบุตรที่เกิดก่อนวันที่บิดาหรือมารดาได้รับสัญชาติไทย และมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวครอบคลุมเฉพาะตัวบิดาหรือมารดาที่เรียนจบปริญญาตรีเท่านั้น โดยไม่รวมถึงบุตรที่เกิดในประเทศไทยและไม่ได้สัญชาติไทยด้วย กรณีนี้ถ้าบุตรที่กำลังศึกษาเล่าเรียนในสถาบันการศึกษาต้องการขอมีสัญชาติไทยสามารถยื่นเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเหตุความจำเป็นได้ เป็นต้น
4. เป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐให้เป็นตัวแทนเพื่อไปแข่งขันหรือประกวดผลงานในระดับนานาชาติหรือทำประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปวัฒนธรรม การศึกษา การกีฬา หรือสาขาอื่น ๆ โดยมีหนังสือรับรองเรื่องดังกล่าวจากส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ที่เกี่ยวข้อง และนักเรียน นักศึกษาผู้นั้น จะต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี
5. เป็นผู้ที่เคยทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย หรือมีบิดาหรือมารดาเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย โดยมีหนังสือรับรองจากส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เป็นประโยชน์นั้น และนักเรียนนักศึกษาผู้นั้น จะต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี
6. เป็นผู้ที่ไม่สามารถส่งกลับประเทศต้นทางซึ่งบิดาและหรือมารดามีสัญชาติหรือมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ โดยมีหนังสือปฏิเสธความเป็นคนสัญชาติของประเทศบิดาและหรือมารดามีสัญชาติจากสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือหน่วยงานของรัฐที่เรียกชื่อเป็นอย่างอื่นซึ่งปฏิบัติงานด้านกงสุลของประเทศนั้น หรือมีข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผู้นั้นเป็นคนไร้รัฐไร้สัญชาติ
การพิสูจน์ความเป็นบิดาซึ่งมีสัญชาติไทยของผู้เกิดเพื่อการได้สัญชาติไทยโดยการเกิด
สถานที่ติดต่อ
กทม. กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่างจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด
ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลในต่างประเทศ
เอกสาร/หลักฐานที่ใช้
1. บัตรประจำตัวประชาชน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
3. สูติบัตร
ฉบับจริง 1 ฉบับ สำเนา 1 ฉบับ
4. หลักฐานการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) หรือหลักฐานการตรวจทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานอื่นที่อธิบดีกรมการปกครองรับรองตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา หรือหลักฐานอื่นๆ ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างบิดาและผู้ขอว่าเป็นบิดาและบุตรกัน
ฉบับจริง 1 ฉบับ
5. รูปถ่าย 4x6 ซ.ม. (2 นิ้ว) ของผู้ขอและบิดา
ฉบับจริง 1 ฉบับ
ค่าธรรมเนียม 50 บาท
ระยะเวลา 30 วัน
หมายเหตุ
มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ได้กำหนดให้บุคคลได้สัญชาติไทยโดยการเกิด โดยผู้เกิดมีบิดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย ไม่ว่าจะเกิดในหรือ นอกราชอาณาจักรไทย โดยบิดาให้หมายความรวมถึง ผู้ซึ่งได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นบิดาของผู้เกิดตามวิธีการที่กำหนด ในกฎกระทรวงแม้ผู้นั้นจะมิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เกิด และมิได้จดทะเบียนรับรองผู้เกิดเป็นบุตรก็ตามกฎกระทรวงกำหนดวิธีการและค่าธรรมเนียมคำขอพิสูจน์ความเป็นบิดาซึ่งมีสัญชาติไทย ของผู้เกิดเพื่อการได้สัญชาติไทยโดยการเกิด กำหนดให้ผู้เกิดหรือผู้มีส่วนได้เสียที่ประสงค์จะพิสูจน์ความเป็นบิดาซึ่งมีสัญชาติไทยของผู้เกิดเพื่อการได้สัญชาติไทยโดยการเกิด ยื่นคำขอพร้อมด้วยหลักฐานประกอบคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนี้ ถ้าผู้ยื่นคำขอ มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอต่อผู้อำนวยการเขต ณ สำนักงานเขตแห่งท้องที่ที่ผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนา ถ้าผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคำขอต่อผู้อำนวยการเขต ณ สำนักงานเขตแห่งท้องที่ที่ผู้ยื่น คำขอมีภูมิลำเนา
ถ้าผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดอื่น ให้ยื่นคำขอต่อนายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือที่ว่าการกิ่งอำเภอแห่งท้องที่ที่ผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนา ถ้าผู้ยื่นคำขอมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศ ให้ยื่นคำขอต่อข้าราชการสถานทูตไทยหรือกงสุลไทย ที่ได้รับมอบหมาย ณ ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่หรือส่วนราชการของกระทรวงการต่างประเทศที่เรียกชื่ออย่างอื่นและปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับ สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ที่มีเขตอาณาหรือเขตกงสุลในประเทศนั้น
สิ่งที่น่าสนใจ